เราเชื่อว่าหลายๆ ครอบครัวคงกำลังคิดจะเลือกซื้อรถ My Car เป็นของตัวเองนะคะ แต่อาจจะยังลังเลเพราะไม่รู้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรตามมาบ้างในแต่ละปี จริงๆแล้วก็ไม่ต่างจากที่ไทยสักเท่าไหร่นัก ลองมาดูกันดีกว่าค่ะ
เลขทะเบียนรถเราสามารถเลือกได้ค่ะ แล้วเลขฮิตๆ เลขตอง เลขสวย คนชอบเยอะก็จะใช้จับสลากเอา ไม่ต้องเสียเงินประมูลเลขทะเบียนค่ะ
ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ หรือ My car loan จะอยู่ที่ราวๆ 3-10% ค่ะ ถ้ากู้กับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ดอกเบี้ยก็จะแพงกว่ากู้กับธนาคารแต่ความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร ตรวจสอบเครดิตก็จะน้อยกว่า ปกติทางดีลเลอร์จะอำนวยความสะดวกให้
ต่ำกว่า 1000 cc ภาษี 29,500 เยน
1001-1500 cc ภาษี 34,500 เยน
1501-2000 cc ภาษี 39,500 เยน
รถทั่วไป(登録車) เรต 0-3% ของราคารถ
รถยนต์เล็ก(軽自動車)เรต 0-2% ของราคารถ
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภาษีตัวนี้จะเป็น 0% ค่ะ
ค่าประกัน 25,000-27,000 เยน (คุ้มครอง 25 เดือน)
เป็นประกันภัยเพิ่มเติมที่กฎหมายไม่บังคับให้ต้องทำค่ะ แต่เพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้น หลายๆคนก็มักจะทำไว้ด้วย ราคาและความคุ้มครองก็จะต่างกันไปตามแต่ละบริษัทประกัน และ สีของใบขับขี่เราด้วยค่ะ ถ้าเรามีใบขับขี่สีทอง ก็จะได้ส่วนลดประกันภัยนี้ด้วย
ค่าประกันภัย 80,000-90,000 เยน(คุ้มครอง 1 ปี)
ที่ญี่ปุ่นเราต้องนำรถของเราไปตรวจสภาพรถยนต์เพื่อต่อทะเบียน(車検:shaken) ปีเว้นปีค่ะ ถ้าเป็นรถใหม่จะต้องตรวจสภาพรถยนต์เพื่อต่อทะเบียน 3ปีหลังที่ซื้อรถมา และแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะต่างกันไปตามขนาดรถยนต์
ค่าตรวจสภาพ 50,000 - 70,000 เยน
ค่าตรวจสภาพ 15,000-20,000 เยน
ค่าจอดรถ 12,000 เยน (ต่อเดือน)
ค่าซื้อรถ (車両購入費用)
ถ้าเราจะซื้อรถยนต์สักคันแน่นอนว่าก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซื้อรถ ว่ากันว่าราคารถยนต์ที่เหมาะสมกับแต่ละครอบครัว คือ รถยนต์ที่มีราคา 50% ของรายได้ต่อปีของครอบครัวค่ะ (年収の50%)เลขทะเบียนรถเราสามารถเลือกได้ค่ะ แล้วเลขฮิตๆ เลขตอง เลขสวย คนชอบเยอะก็จะใช้จับสลากเอา ไม่ต้องเสียเงินประมูลเลขทะเบียนค่ะ
10 อันดับหมายเลขทะเบียนรถยอดฮิต และแนวคิดการเลือกเลขทะเบียนของคนญี่ปุ่น
เมื่อปีก่อน ที่บ้านแอดมินเปลี่ยนรถค่ะ ก็เลยได้มีประสบการณ์ไปเลือกซื้อรถที่โชว์รูมในญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสเลือกอะไรมาก เ...
ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อรถ(ローン金利)
ที่ญี่ปุ่นก็เช่นกันค่ะ เราจะซื้อรถด้วยเงินสด หรือเงินกู้แล้วผ่อนเอาก็ได้ ถ้าเราซื้อเงินสดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็จะไม่มีค่ะส่วนดอกเบี้ยเงินกู้รถยนต์ หรือ My car loan จะอยู่ที่ราวๆ 3-10% ค่ะ ถ้ากู้กับสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร ดอกเบี้ยก็จะแพงกว่ากู้กับธนาคารแต่ความยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร ตรวจสอบเครดิตก็จะน้อยกว่า ปกติทางดีลเลอร์จะอำนวยความสะดวกให้
ภาษีรถยนต์(自動車税)
เป็นค่าใช้จ่ายตามกฎหมาย ที่เราต้องชำระปีละ 1 ครั้ง แปรผันตามปริมาณการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ โดยปกติแล้วภาษีรถยนต์จะเรียกเก็บวันที่ 1 เมษายน ของทุกปี(ใบ invoice จะถึงบ้านเดือน พฤษภาคม) ตอนเราเอารถไปตรวจสภาพเพื่อต่อทะเบียน จะต้องใช้ใบรับรองการจ่ายภาษีรถยนต์ด้วย อย่าลืมไปจ่ายให้เรียบร้อยก่อนนะคะต่ำกว่า 1000 cc ภาษี 29,500 เยน
1001-1500 cc ภาษี 34,500 เยน
1501-2000 cc ภาษี 39,500 เยน
ภาษีน้ำหนักรถยนต์(重量税)
เป็นภาษีอีกตัวที่คนมีรถยนต์ในครอบครองต้องจ่ายตามกฎหมาย 2ปี ครั้ง ตามชื่อภาษีเลยค่ะ แปรผันตามน้ำหนักรถ รถใหญ่หนักก็จะแพงกว่ารถเล็กค่ะ รายละเอียดการคำนวณมีเงื่อนไขค่อนข้างเยอะ แต่ส่วนมากจะอยู่ที่ราวๆ 20,000-30,000เยน / 2ปีภาษีสิ่งแวดล้อม(環境性能割)
เป็นภาษีอีก 1 ตัวที่คนมีรถยนต์จะต้องจ่ายค่ะ เพิ่งจะเพิ่มเข้ามาเมื่อเดือนตุลาคม 2019 นี้เอง จุดประสงค์เพื่อลดมลพิษที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ภาษีตัวนี้จะจ่ายครั้งเดียวตอนซื้อรถยนต์ โดยอัตราภาษีจะขึ้นอยู่กับว่ารถยนต์ที่เราซื้อกินน้ำมันมากน้อยแค่ไหนรถทั่วไป(登録車) เรต 0-3% ของราคารถ
รถยนต์เล็ก(軽自動車)เรต 0-2% ของราคารถ
แต่ถ้าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าภาษีตัวนี้จะเป็น 0% ค่ะ
ประกันคุ้มครองผู้เสียหายภาคบังคับ(自賠責保険)
ถ้าให้เทียบกับที่เมืองไทยแล้ว ประกันภาคบังคับชนิดนี้ ก็เทียบได้กับ พรบ. ประกันรถยนต์ค่ะ ที่รถยนต์ทุกคนจะต้องมีตามกฎหมายคุ้มครองเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายของประกันนี้จะขึ้นกับระยะเวลาที่คุ้มครองมีตั้งแต่ 12-37 เดือน ส่วนมากจะทำประกันพร้อมการตรวจสภาพเพื่อการต่อทะเบียน(車検)ค่าประกัน 25,000-27,000 เยน (คุ้มครอง 25 เดือน)
ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ(自動車任意保険)
เป็นประกันภัยเพิ่มเติมที่กฎหมายไม่บังคับให้ต้องทำค่ะ แต่เพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้น หลายๆคนก็มักจะทำไว้ด้วย ราคาและความคุ้มครองก็จะต่างกันไปตามแต่ละบริษัทประกัน และ สีของใบขับขี่เราด้วยค่ะ ถ้าเรามีใบขับขี่สีทอง ก็จะได้ส่วนลดประกันภัยนี้ด้วย
ค่าประกันภัย 80,000-90,000 เยน(คุ้มครอง 1 ปี)
ค่าตรวจสภาพรถยนต์เพื่อต่อทะเบียน(車検費用)
ที่ญี่ปุ่นเราต้องนำรถของเราไปตรวจสภาพรถยนต์เพื่อต่อทะเบียน(車検:shaken) ปีเว้นปีค่ะ ถ้าเป็นรถใหม่จะต้องตรวจสภาพรถยนต์เพื่อต่อทะเบียน 3ปีหลังที่ซื้อรถมา และแน่นอนว่ามีค่าใช้จ่ายค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายก็จะต่างกันไปตามขนาดรถยนต์
ค่าตรวจสภาพ 50,000 - 70,000 เยน
ค่าตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี (点検費用)
ส่วนมาก Show room รถยนต์ที่เราซื้อ จะส่งไปรษณีย์มาแจ้งให้เรานำรถยนต์เข้าไปตรวจเชคสภาพปีละครั้ง ซึ่งตรงนี้ไม่มีข้อบังคับทางกฎหมาย แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยแล้ว ก็ควรจะนำรถไปตรวจเชคค่ะค่าตรวจสภาพ 15,000-20,000 เยน
ค่าที่จอดรถ(駐車場代)
อีกหนึ่งสิ่งที่แตกต่างกับที่ประเทศไทยเวลาจะไปซื้อรถ เราต้องนำเอกสารที่จอดรถไปแสดงให้ผู้ขายดูด้วยค่ะ ถ้าเราไม่มีเอกสารที่จอดรถมายืนยัน เราจะไม่สามารถซื้อรถได้ ซึ่งถ้าเรามีบ้านที่มีที่จอดรถ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้คงไม่มีเพิ่ม แต่ถ้าเราต้องไปเช่าที่จอดรถเพิ่มด้วย ก็อย่าลืมบวกค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเข้าไปด้วยนะคะค่าจอดรถ 12,000 เยน (ต่อเดือน)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ (その他費用)
นอกจากนั้นก็ยังมีค่าน้ำมัน(ガソリン代) , ค่าทางด่วน (高速代) ,ค่าอะไหล่อื่นๆ (その他整備品) ,ค่าล้างรถ รวมไปถึงค่าจอดรถเพิ่มเติมในสถานที่ที่เราไปเที่ยวด้วยนะคะจะเห็นได้ว่าการมีรถสักคันที่ญี่ปุ่นเนี่ย ก็มีค่าใช้จ่ายต่อปีที่ตามมาพอสมควรเลย คิดไว้คร่าวๆ คือ 10-20% ของราคารถยนต์เลยล่ะค่ะ อย่าลืมวางแผนดีๆ ก่อนที่จะซื้อรถนะคะ
ส่วนใครที่ยังไม่มีใบขับขี่ในญี่ปุ่น สามารถนำใบขับขี่ไทยมาสอบเปลี่ยนได้นะ
ส่วนใครที่ยังไม่มีใบขับขี่ในญี่ปุ่น สามารถนำใบขับขี่ไทยมาสอบเปลี่ยนได้นะ
การเปลี่ยนจากใบขับขี่ไทย เป็นใบขับขี่ญี่ปุ่น หรือ 外免切り替え/gaimenkirikae สำหรับผู้อาศัยในญี่ปุ่นระยะยาว
หลังจากที่รับปากจะเขียนเรื่องการขอเปลี่ยนใบขับขี่ไทยมาเป็นใบขับขี่ญี่ปุ่น หรือ 外免切り替え/gaimankirikae ก็ได้โอกาสรวบรวมข้อมูลมาเขียนสักทีค่ะ
0 Comments