Blog นี้พาไปรู้จักของเล่นที่ตอนนี้กำลังฮิตกันสุดๆ ในหมู่เด็กประถมญี่ปุ่นค่ะ เรียกว่า Brave Board หรือ ย่อๆ ตามสไตล์ญี่ปุ่นว่า ブレボ บุเระโบะ จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ของใหม่อะไรนะคะ ที่ประเทศอื่นๆ จะรู้จักกันในชื่อว่า Wave board ที่มีขายในอเมริกาตั้งแต่ปี 2008 แล้วล่ะค่ะ (บางทีเรียก เอสบอร์ด หรือ เจบอร์ดด้วย)
แล้วเจ้าบุเระโบะ หรือ เวฟบอร์ด ต่างจากสเก็ตบอร์ดยังไงล่ะ???
บุเระโบะต่างสเก็ตบอร์ดตรงที่บุเระโบะไม่ต้องใช้เท้าเตะพื้นเพื่อดันให้บอร์ดเคลื่อนที่ค่ะ บุเระโบะสามารถเคลื่อนที่ได้โดยการถ่ายน้ำหนักตัวของผู้เล่นบนบอร์ด
บุเระโบะ จะประกอบด้วยแผ่นกระดานรูปทรงคล้ายๆใบไม้ 2 แผ่น(ขนาดต่างกันเล็กน้อย) เชื่อมต่อกันด้วยไปป์ กระดาน 2แผ่นขยับหน้าหลังได้อย่างอิสระจากกันค่ะ
แผ่นกระดานขนาดเล็กกว่าจะเป็นด้านหน้า แผ่นที่ใหญ่กว่าจะเป็นด้านหลังค่ะ และใต้แผ่นกระดานแต่ละแผ่นจะมีล้ออยู่ 1 อัน (ล้อสึกแล้วเปลี่ยนอะไหล่ได้) ถ้าไม่เคลื่อนที่ก็จะยืนตรงตัวได้ยากพอดู
เราเองก็แปลกใจที่อยู่ๆ เจ้าบุเระโบะ ก็มาฮิตในญี่ปุ่นมากๆในช่วงนี้ เรียกว่าไปไหนก็เจอ แถวบ้านเด็กๆ ประถมมีกันแทบทุกบ้านเลยค่ะ หาซื้อยากมาก รุ่นที่อยากได้ก็ต้องสั่งแล้วรอของเข้าอย่างไม่มีกำหนด แต่สุดท้ายก็ได้ของหลังจากสั่งไป 1-2 สัปดาห์
ว่ากันว่าช่วง Golden age ที่เหมาะสำหรับการเล่นบุเระโบะ คือช่วง 8-12 ปี เป็นช่วงที่จุดศูนย์ถ่วงของร่างกายยังอยู่ต่ำ และรู้จักการบาลานซ์ การทรงตัวได้ดี ลูกสาวเราอายุ 7 ขวบค่ะ เริ่มหัดเล่นกันเองกับเพื่อนๆ ข้างบ้าน ตอนนี้ก็ทรงตัวบนบอร์ด เล่นได้โดยไม่ต้องเกาะกำแพงแล้วค่ะ
ส่วนประโยชน์ในการฝึกบุเระโบะ ส่วนตัวคิดว่าได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดใหญ่ค่ะ กล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อลำตัว รวมถึงการทรงตัว ฝึกบาลานซ์ รู้จักควบคุมร่างกาย ได้ออกกำลังกาย แล้วก็สนุกดีด้วย
เราว่าเหมาะเป็นของขวัญวันเกิด ของขวัญคริสมาสต์ให้เด็กๆ เหมือนกันนะคะ ราคา Rip Stick DLX mini อยู่ที่ประมาณ 10,000เยนค่ะ
ปล. อย่าลืมใส่หมวกกันน้อก สนับเข่า สนับมือนะคะ แรกๆ จะล้มบ่อยเลยเชียว
0 Comments