รีวิวการพบหมอฟันเด็กที่ญี่ปุ่น (子供を連れて歯医者に診てもらおう)


ถึงวันนัดตรวจสุขภาพฟันของลูกสาววัย6 ขวบค่ะ ที่ญี่ปุ่นจะนัดตรวจทุกๆ3 เดือนเลย รู้สึกว่าจะถี่กว่าที่ไทยที่จะนัดราวๆ6 เดือนครั้งค่ะ


พอถึงคิวตรวจผู้ช่วยคุณหมอจะเรียกไปที่เตียงคนไข้ค่ะ แล้วก็มาถ่ายรูปฟันเก็บไว้ พอถ่ายเสร็จคุณผู้ช่วยก็จะทำความสะอาดฟันค่ะ เอาแปรงสีฟันก้านยาว หัวแปรงเล็กๆ ใช้ยาสีฟันแปรงให้ และใช้ไหมขัดฟันขัดให้ด้วย พอเสร็จ ถ้าเด็กเคยชินและไม่กลัวแล้ว ก็จะใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดและขัดฟันให้ค่ะ หลังจากนั้นก็จะเอารูปที่ถ่ายตอนแรกมาให้ดูและอธิบายให้ฟัง หลังจากนั้นคุณหมอฟันก็จะเข้ามาตรวจสุดท้ายและคุยกับคุณแม่ค่ะ ถ้าไม่ต้องมีการรักษาอะไรพิเศษ คุณผู้ช่วยก็จะเคลือบฟลูโอไรด์ให้ แล้วก็กลับบ้านค่ะ

ที่คลินิกหมอฟันที่ญี่ปุ่นจะต่างกับที่ไทยคือ การตรวจสุขภาพฟันประจำปี การขูดหินปูนนั้น ผู้ช่วยทันตแพทย์ที่ผ่านการอบรมจะเป็นคนทำให้ค่ะ หลังจากนั้นก็จะเรียกคุณหมอมาเชคสุดท้าย ถ้าเป็นการอุดฟันหรือถอนฟัน การรักษาเฉพาะทางอื่นๆ คุณหมอถึงจะลงมือเองค่ะ (เป็นเหตุผลนึงที่แอดมินชอบหาหมอฟันที่ไทยมากกว่า 😂) ที่คลินิกนี้มีเตียงทำฟันน่าจะเกือบๆ 10 เตียงได้ แต่มีคุณหมอแค่ 1-2 คนค่ะ นอกนั้นผู้ช่วยสาวๆเพียบเลย


ผลการตรวจฟันครั้งนี้ไม่มีฟันผุเพิ่มค่ะ แต่มีที่ผุแต่เดิมอยู่แล้ว เป็นฟันด้านหน้า สาเหตุจากการที่ลูกติดเต้าคุณแม่ตอนนอน เพิ่งจะเลิกตอน4 ขวบค่ะ แต่ไม่มีอาการปวด และแปรงได้ง่าย คุณหมอเลยไม่อุดให้ค่ะ ให้แปรงให้สะอาดๆแทน จริงๆเคยอุดที่ไทยให้เป็นสีขาว แต่ด้วยฟันเด็กเล็กมาก ทำให้วัสดุเกาะไม่อยู่ค่ะ อุดแล้วก็หลุดไปทั้ง2 ครั้งเลย แล้วก็มีฟันล่าง2 ซี่ที่เริ่มโยกนิดๆแล้ว

สิ่งที่คุณหมอเทศน์คุณแม่ทุกครั้งที่เจอคือ การให้ลูกกินขนม กับน้ำผลไม้ค่ะ 😂 หมอคงเทศน์จนเบื่อ ว่าให้กินน้อยๆ น้ำตาลจะทำให้ฟันผุ ยิ่งฟันแท้จะขึ้นแล้วด้วย


ลูกสาวแอดมินมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อลิ้นค่ะ คุณหมอบอกว่ากล้ามเนื้อลิ้นไม่แข็งแรงทำให้อ้าปากและลิ้นออกมาตอนเผลอๆ คุณหมอและพยาบาลจะเน้นให้ฝึกโดยการให้เคี้ยวหมากฝรั่งและใช้ลิ้นปั้นเป็นลูกกลมๆ หลังจากนั้นให้ใช้ลิ้นดันไปกดให้แบนที่เพดานปาก และเคยได้อุปกรณ์มาให้ใช้ริมฝีปากคาบไว้ตอนดูทีวีทุกวันเพื่อฝึกกล้ามเนื้อด้วย


คุณหมอบอกว่าให้น้องใช้ฟันหน้าในการกัดมากๆ เพื่อฝึกกล้ามเนื้อค่ะ ให้คิดเหมือนว่าเราเลี้ยงกอริลลา 😂 ต้มข้าวโพดฝักแล้วให้ไปกัดกินจากฝักเอง แอปเปิ้ล สาลี่ ผลไม้ต่างๆ อย่าหั่นชิ้นเล็กพอดีคำ ให้หั่นชิ้นใหญ่ แล้วให้น้องใช้ฟันหน้ากัดเข้าปากกินเอง เพื่อการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อลิ้นและขากรรไกรค่ะ

แอดมินสังเกตว่า กล้ามเนื้อลิ้นของลูกสาวแข็งแรงขึ้นจากเดิมนิดหน่อยค่ะ ฟังจากการออกเสียง つ Tsu ของน้องที่ชัดขึ้นกว่าตอนเด็กๆ

ลูกๆบ้านไหนมีปัญหากล้ามเนื้อลิ้นเหมือนลูกสาวแอดมินบ้างไหมคะ??? คุณหมอให้ฝึกอย่างไรบ้าง??

แอดมินพาลูกไปหาหมอฟันตั้งแต่เล็กๆ ที่ฟันน้ำนมขึ้นเลยค่ะ มีทั้งไปหาคุณหมอที่ไทยและที่ญี่ปุ่น ตอนนี้ลูกสาว6 ขวบแล้ว ก็เลยชินกับการไปหาหมอฟันเพื่อตรวจสุขภาพและรักษาฟันแล้วค่ะ ตอนเด็กๆ ก็ต้องหว่านล้อมและบังคับกันไปตามสถานการณ์


แรกๆตอนที่พาไปพบคุณหมอ คุณหมอก็จะยังไม่ทำอะไรค่ะ ถ้าไม่ใช่ฟันผุต้องการรักษาด่วน ถ้าน้องไม่สมัครใจเองคุณหมอจะไม่ทำอะไรเลยค่ะ คุณหมอก็บอกว่าให้พามาเล่นที่คลินิก มาดูคุณพ่อทำฟัน เพราะคุณพ่อก็หาหมอฟันที่นี่อยู่แล้ว ให้มาให้ชินค่ะ พอเด็กเริ่มชินก็จะค่อยๆขยับไปทีละนิดเช่นให้ลองนอนเตียงคนไข้ดู แล้วก็ชี้ชวนดูอุปกรณ์ทำฟัน เปิดให้ดูว่าหมุนแบบนี้ ค่อยๆลองเอาอุปกรณ์แตะฟัน แล้วนับ1-10, 1-15 ดูว่าไหวไหม ก็ฝึกกันไปเรื่อยๆค่ะ อันนี้คิดว่าน่าจะเหมือนกันกับคลินิกเด็กที่เมืองไทย และแน่นอนว่าคนที่คอยช่วยฝึกให้ก็คือผู้ช่วยคุณหมอนั่นเองค่ะ


ถึงจะพาไปพบคุณหมอฟันดูแลกันตั้งแต่ฟันขึ้นใหม่ๆ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังเจอฟันผุจนได้ค่ะ ทั้งฟันหน้าและฟันกรามเลย หลายจุดเลยค่ะ ตรงนี้คุณหมอก็พิจารณาว่าเร่งด่วนแค่ไหนและรักษาให้ค่ะ เคยฉีดยาชาและอุดที่ญี่ปุ่นไปแล้ว และผ่านมาได้ค่ะ น่าจะตอนสัก5 ขวบ ก็ไม่ร้องไห้ และไม่ต้องรัดผ้า วางยา หรือให้ผู้ปกครองล้อกตัว

ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาฟันนั้น ประกันสุขภาพคุ้มครอง เราชำระในราคา 30% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด และ สำหรับเด็กเล็กนั้นสวัสดิการช่วยค่ารักษาของเขตก็ใช้ได้ด้วยค่ะ ที่เขตบ้านแอดมินมีเพดานค่ารักษาของเด็กๆ ที่ 400 เยน ก็ใช้สิทธิ์นี้ในการรักษาและตรวจสุขภาพฟันทุกครั้งค่ะ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมพาลูกๆไปตรวจเชคฟันกับคุณหมอใกล้บ้านนะคะ ไปได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมขึ้นเลยค่ะ

Post a Comment

0 Comments